อิหร่านโจมตีอิสราเอล สงครามรอบใหม่สะเทือนทั้งโลก
อิหร่านโจมตีอิสราเอล ยิงระเบิดโดรนและขีปนาวุธ 300 กว่าลูกใส่อิสราเอล นับเป็นการโจมตีอิสราเอลโดยตรงครั้งแรก โดยอิหร่านให้เหตุผลว่า เป็นการใช้สิทธิป้องกันตนเอง ทดลอง เล่น บาคาร่า สาเหตุมาจากการโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ซึ่งเชื่อกันว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลัง
แม้ ‘การแก้แค้น’ จะจบที่การยิงระลอกสั้นๆ ของอิหร่าน และระบบต่อต้านขีปนาวุธ คาสิโน77 ของอิสราเอลก็ป้องกันน่านฟ้าไว้ได้ 99 เปอร์เซ็นต์ แต่บรรดาชาติมหาอำนาจก็เริ่มนั่งไม่ติด
สหรัฐฯ บอกให้อิสราเอลทำใจนิ่งๆ เพราะก่อนยิงอิหร่านส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า จึงออกแนวแสดงแสนยานุภาพมากกว่ายิงเพื่อหวังทำลายล้าง เพราะอิหร่านเองก็รู้ว่า การโจมตีลักษณะนี้ไม่สามารถฝ่าระบบ Iron Dome ของอิสราเอลเข้ามาได้ และหากอิสราเอลทำมากกว่าการตอบโต้ปกป้องน่านฟ้า เดินหน้ายิงกลับใส่อิหร่าน นั่นอาจเป็นลั่นระฆังสงครามครั้งใหญ่ในภูมิภาค
โชคยังดีที่ยังไม่มีใครเริ่มปฏิบัติการทางทหารระลอกใหม่
ปัจจัยหลายอย่างชวนให้ตีความไปถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายจะเชื่อว่า ทั้งอิหร่านและอิสราเอลไม่ต้องการเสี่ยงในเกมที่มีเดิมพันสูง แต่นั่นก็เพียงพอจะให้ชาวเน็ตตีความต่อกันไปได้ ว่ามหาสงครามครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และไวรัลนี้ก็อ้างจากคำทำนายนอสตราดามุสดิบดี
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังจินตนาการต่อไปว่า อิสราเอล vs อิหร่าน ฝ่ายไหนมีใครเป็นแบ็กอัพบ้าง แล้วการจับคู่แบ่งขั้วในแนวทางนี้ มีข้อเท็จจริงรองรับหรือเป็นแค่การมโนตามกระแสกันแน่
กระแสคำทำนายกับมหาสงครามเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หลังอิสราเอลเริ่มทำสงครามกับฮามาสตั้งแต่ถูกบุกเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 และยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดในเร็ววันนี้ โดยทั้งสองฝ่ายมีชาติมหาอำนาจจากสองซีกโลกคอยสนับสนุนทางตรงและทางอ้อม สงครามอิสราเอล-ฮามาส จึงเข้าข่ายสงครามตัวแทนที่ชาติมหาอำนาจยังไม่ลงสู่สนามด้วยตัวเอง
ล่าสุด หลังอิหร่านโจมตีเพื่อตอบโต้อิสราเอล แม้ยังไม่เกิดอันตรายใหญ่โต สถานการณ์ไม่บานปลาย แต่กระแสคำทำนายนอสตราดามุสก็ท่วมโลกออนไลน์อีกครั้ง ชาวเน็ตในหลายประเทศเริ่มเชื่อว่า การสู้รบครั้งนี้จะพัฒนาไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
นอสตราดามุส นักโหราศาสตร์ แพทย์ และนักพยากรณ์ ชาวฝรั่งเศส มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 16 โดย ‘Les Prophéties’ รวมคำทำนายของแพทย์และนักพยากรณ์ชื่อดังเผยแพร่เมื่อปี 1555 เป็นบทกวีเปรียบเปรยสั้นๆ สี่บรรทัด ทั้งหมด 942 บท แบ่งช่วงเวลาเป็น 10 ศตวรรษ
ที่ผ่านมา การตีความบทกวีของนอสตราดามุสเป็นคำทำนายและคำเตือนถึงเหตุการณ์สำคัญของโลกกลายเป็นจริงหลายเรื่อง เช่น ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ลอนดอน ปฏิวัติฝรั่งเศส การเกิดขึ้นของฮิตเลอร์ และนโปเลียน การจากไปของ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา และนางาซากิ การก่อการร้าย 9/11
เรื่องที่ผ่านมาเร็วๆ นี้คือ การสวรรคตของพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ที่โยงไปถึงคำทำนายว่า “Celestial fire on the Royal edifice.” ไม่มีใครตีความชัดเจนว่า ‘ราชวงศ์’ ที่ว่านี้ หมายถึงดินแดนไหน แต่ผู้ศึกษานอสตราดามุสก็คาดว่า ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ราชวงศ์อังกฤษ
อย่างไรก็ตาม คำทำนายของนอสตราดามุส มาจากการตีความสัญลักษณ์ที่ซ่อนในบทกวี ไม่ใช่การบรรยายแบบตรงเป๊ะ หลายคนคนจึงมองว่า บทกวีที่เขียนไว้กว้างๆ นั้นไม่ได้แม่นยำ แต่มันเปิดช่องให้ตีความตามที่อยากจะเชื่อได้ง่ายมากกว่า
คำทำนายของนอสตราดามุสตกเป็นที่จับตามองท่ามกลางสถานการณ์สงครามในช่วงสองสามปีนี้ เช่น “Seven months into the Great War, people dead of evil-doing.” นอกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจยืดเยื้อ สงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ยาวนาน 6 เดือน ที่กำลังเข้าใกล้ 7 เดือนตามคำทำนาย อิหร่านก็กระโดดลงสู่เกม – ยิ่งเข้าทางการตีความให้เป็นจริงได้ง่าย
นอกจากนี้ สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางยังถูกโยงไปหาอีกคำทำนายหนึ่งคือ “Red adversary will become pale with fear, putting the great Ocean in dread” หรือ “ปฏิปักษ์สีแดงชาดจะซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว และมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ตกอยู่ในความกลัวอันน่าสะพรึง”
ก่อนหน้านี้บทกวีดังกล่าวถูกตีความไปหาความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน แต่การปรากฏตัวของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง ซึ่งเป็นผลพวงจากสงครามในฉนวนกาซา เกิดเหตุโจมตีเรือสินค้า ยึดน่านน้ำ ขัดขวางเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ อุตสาหกรรมน้ำมัน ที่ขึ้นอยู่กับเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง เมื่อย้อนกลับไปอ่านคำทำนายอีกรอบ เรื่องนี้ดูเข้าเค้ามากกว่าจริงๆ